เทคนิค เปิดร้านชาไข่มุก ลงทุนเริ่มต้นเพียง 15,500 บาทพร้อม 5 ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนเปิดร้าน

เทคนิค เปิดร้านชาไข่มุก ลงทุนเริ่มต้นเพียง 15,500 บาทพร้อม 5 ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนเปิดร้าน

วันนี้ทางทีมงานชาไข่มุกดอทคอม จะมาแชร์วิธีการเปิดร้านชานมไข่มุก ในราคาขาย 25 - 35 บาทที่กำลังมาแรงในเวลานี้ ใช้งบลงทุนเริ่มต้นเพียง 15,500 บาท เท่านั้น!! ทางทีมงานได้ไปสำรวจตลาดชาไข่มุกและได้พบว่า แฟรนไชส์เจ้าดังๆใช้งบในการซื้อแฟรนไชส์ที่สูงงงงงง~ เอาการไม่ว่าจะเป็น ชาคุ..., ชาพะ.... หรือ ชาในห้างดังต่างๆก็ใช้งบมากกว่า แสนทั้งนั้น หากถามว่า เงินทุน 15,500 บาท สามารถแจกแจงเป็นค่าอะไรได้บ้าง? อย่างแรกเลยที่ต้องมีก็คือ

1. เลือกเมนูที่จะมาขายในร้านพร้อมหาสูตร
ซึ่งเราไม่ควรมีเมนูที่เยอะจนเกินไปเหตุผลคือ 1.1 ) ลูกค้าจะสับสนและสั่งยาก
1.2 ) การเตรียมวัตถุดิบจะยากถ้าเมนู ในร้านของมีมากจนเกินไป
1.3 ) กำหนดทิศทางหรือแนวทางร้านของเราได้ยากเช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันจะมีการสอนหรือหาเรียนได้ตาม อินเตอร์เน็ต ยูทูป หรือตามบทความก็มีสอนใช้งบประมาณ 10 - 3,000 บาท (* 10 บาทค่าอินเตอร์เน็ต)

2. เลือกซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ภายในร้าน
ในส่วนนี้เราจะแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ 1.) ส่วนอุปกรณ์ที่จำเป็นไม่ว่าจะเป็นหม้อต้มชา ถังพักชา หม้อต้มไข่มุก ฯลฯ 2.) ส่วนวัตถุดิบ นมผง น้ำเชื่อม ไข่มุก ผงผลไม้ ใบชา ใช้งบประมาณ 4,000 - 5,000 บาท

3.เลือกแพ็กเกจจิ้งสำหรับขาย
การเสิร์ฟเครื่องดื่มจากร้านเราก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย อย่างแรกคือต้องสะอาดภูกหลักอนามัย อย่างที่สองคือการที่ให้ลูกค้าจดจำร้านเรา อาจจะเป็นแก้วใส ปิดฝาด้วยที่ปิดฝาแก้ว และแอบติดสติ๊กเกอร์ร้านเราไปก็เป็นอันจบ ไม่ต้องสกรีนแก้วที่ใช้งบเยอะเลยทีเดียว อันนี้ใช้งบ แก้ว ฝา หลอด หูหิ้ว ใช้ประมาณ 800 - 1,000 บาท เฉลี่ยได้ 500 ชุดแก้ว (แก้ว 50 ใบ/แถวๆละ 65.-)

4. เลือกป้ายหน้าร้านและป้ายเมนู
สิ่งนี้ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะเราต้องการให้คนผ่านไปผ่านมารับรู้ว่าเราขายชานมไข่มุก ในราคา 25 - 35 บาท เราก็ควรจะมีป้ายที่เห็นได้จากระยะไกล หรือมาใกล้ๆก็จะสามารถสั่งได้ว่าเราขายเมนูอะไรเท่าไหร่บ้าง ยิ่งรูปสวยก็ยิ่งดึงดูดให้สั่งและขายได้ง่ายยิ่งขึ้น ค่าสติ๊กเกอร์มีตั้งแต่เกรดธรรมดาจนถึงเกรดดี ตร.ม.ละ 300 - 900 บาท ตามแต่กำลังทรัพย์ของร้านค้า อันนี้จะตีง่ายๆ ใช้งบประมาณ 1,000 บาท

เพียงเท่านี้เราก็จะใช้งบประมาณไม่เกิน 15,500 บาทเท่านั้นเอง ขอแค่มีใจรักในการค้าขายและบริการท่านก็สามารถเปิดร้านชานมไข่มุกได้แล้ว แต่สำหรับท่านที่มีงบประมาณการลงทุนที่มากกว่า 9,900 บาท เรามี 5 ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนเปิดร้านมาฝาก

1. คุณต้องกำหนดคอนเซ็ปต์แบรนด์ของคุณขึ้นมาก่อน

     ถ้าหากคุณคิดกำลังทำธุรกิจชาไข่มุกจริงๆ จังๆ แน่นอนว่าคุณก็ต้องมีคอนเซ็ปต์อยู่ในใจแล้ว ลองกำหนดดูว่าอยากจะให้ชานมไข่มุกของคุณนั้นต้องมีเมนูเป็นแบบไหน แล้วกลุ่มลูกค้าจะเน้นไปที่คนกลุ่มไหน จะบริการลูกค้าให้อยู่หมัดได้อย่างไร และที่สำคัญแล้วคุณมีอะไรเป็นจุดขาย หรือมีอะไรที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้มาดื่มชานมไข่มุกของคุณ แล้วถ้าหากขายชาไข่มุกไปสักพักหนึ่งแล้ว ธุรกิจจะขยับขยายไปต่อได้ง่ายหรือยากแค่ไหน ซึ่งคุณต้องศึกษาตลาดและคู่แข่งของคุณให้มาก เพื่อค้นหาตัวตนของแบรนด์คุณเอง และเพื่อหาทางออกให้กับธุรกิจของคุณ

ข้อแนะนำ: ธุรกิจชานมไข่มุกเป็นธุรกิจเครื่องดื่มที่ต้องนำเสนอเมนูให้ลูกค้า คุณต้องจัดเมนูชาไข่มุกให้หลากหลาย และปรับปรุงให้น่าสนใจสุดๆ อาจเพิ่มท้อปปิ้ง หรือจัดผสมวัตถุดิบใหม่ๆ  อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้ลองสั่ง 

2. คุณต้องเตรียมเงินทุน

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ธุรกิจชานมไข่มุกเท่านั้น แต่ไม่ว่าการทำธุรกิจไหนๆ ก็ต้องใช้เงินทุน เงินทุนที่จะใช้เปิดร้านชาไข่มุกหลักๆ แล้ว เป็นค่าเช่าพื้นที่ ค่าอุปกรณ์จัดร้านที่รวมถึงอุปกรณ์ทำเครื่องดื่มและวัตถุดิบต่างๆ ค่าแรงพนักงาน (หากคุณไม่ได้ทำเอง) และค่าการตลาด ซึ่งเงินทุนจะมากน้อยเพียงใดนั้นผันแปรไปตามขนาดของธุรกิจที่คุณจะทำ เช่น คุณอาจจะเช่าพื้นที่เล็กๆ หน้าโรงเรียน หรือไม่เช่าเลย (ใช้บ้านคุณเอง) ใช้อุปกรณ์มือสอง หาซื้อวัตถุดิบได้ในราคาถูก และชงขายเอง โดยไม่ได้จ้างพนักงาน ซึ่งก็ไม่ต้องมีต้นทุนเรื่องค่าแรงแล้ว ต้นทุนของคุณก็จะลดลงไปกว่าการไปเช่าพื่นที่ในห้างใหญ่และจ้างพนักงานทำงาน เป็นต้น เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่าคุณต้องเตรียมเงินทุนทำอะไรบ้าง คุณจะสามารถประเมินได้ว่าทิศทางธุรกิจชานมไข่มุกของคุณควรเป็นอย่างไร 

ข้อแนะนำ: การซื้อแฟรนไชส์ทำธุรกิจก็เป็นทางเลือกหนึ่ง มีข้อดีของแฟรนไชส์คือคุณจะได้รับรูปแบบธุรกิจที่จัดมาให้เป็นแพ็จเกจแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ กำหนดเมนูต่างๆ การออกแบบร้าน การเทรนพนักงาน สูตรการชงชา รวมถึงการทำการตลาด แม้มันก็จะมีค่าธรรมเนียม คุณก็ต้องลองคำนวณต้นทุนดูว่าจะซื้อแฟรนไชส์ดีกว่ากันหรือไม่ ลองเลือกหาบริษัทที่ตอบโจทย์ของคุณ

3. คุณต้องเลือกหาที่ตั้งทำเล

     ก่อนที่จะเลือกทำเล คุณต้องอย่าลืมว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใครกันแน่ เพราะกลุ่มลูกค้าของคุณก็ขึ้นอยู่กับทำเลของคุณเอง กลุ่มเป้าหมายหลักของคุณ ส่วนใหญ่แล้วมีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้คนเจ้าถิ่นที่เข้ามาซื้อในระยะแรกๆ ที่คุณเริ่มทำธุรกิจ และมันก็ขึ้นอยุ่กับการตั้งทำเลของคุณด้วย เพราะว่าคนในพิ้นที่ก็มักจะยินดีที่จะลองใช้บริการอุดหนุนร้านเปิดใหม่อยู่แล้ว ถ้าดีจริงๆ ก็จะเกิดการแนะนำกันปากต่อปาก ลูกค้ากลุ่มแรกนี้จึงเป็นกลุ่มคนที่มีค่าต่อธุรกิจคุณอย่างมาก หากคุณทำให้พวกเขาคุ้นเคยกับธุรกิจของคุณได้ แต่คุณลองคิดดูว่าอยากจะตั้งร้านที่ไหนดี จะอยู่แถวบ้าน อยู่ในตลาด อยู่ใกล้โรงเรียน หรืออยู่ในห้าง 

ข้อแนะนำ: การเลือกทำเลควรเป็นสถานที่ที่มีผู้คนสัญจรไปมา หรือผู้คนต้องเดินทางผ่านเป็นประจำ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ลูกค้ากลุ่มคนพวกนี้ก็แค่อยากจะหาที่นั่งไว้ได้พักผ่อนดีๆ สักครู่หนึ่ง แล้วมันจะยิ่งดีถ้าหากได้นั่งจิบชาราคาถูกๆ ด้วย  

4. คุณต้องลงทุนทำตัวร้าน

     ขนาดของร้านค้าของคุณจะสัมพันธ์โดยตรงกับต้นทุนของคุณ และมันจะบ่งบอกถึงขนาดธุรกิจของคุณเอง แต่สิ่งหลักๆ แล้วคุณต้องมีพื้นที่เคาน์เตอร์ให้คนชงชา ส่วนอื่นๆ เป็นเพียงการปรับแต่งตามที่คุณต้องการ  

อุปกรณ์ที่คุณต้องลงทุน ได้แก่ เครื่องชงกาแฟและเครื่องบดกาแฟ เคาน์เตอร์ เครื่องปั่นไฟฟ้า เครื่องคน ถ้วย ตู้แช่ เครื่องทำน้ำแข็ง โดยที่คุณต้องมั่นใจในด้านคุณภาพและความสะอาด อุปกรณ์การทำจะต้องมีระบบการใช้งานง่าย ปรับแต่งได้ ปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดปัญหาในภายหลัง และมีขนาดกะทัดรัด เหมาะสมพอหากนำมาจัดเข้าในร้านแล้ว  คุณควรหาซัพพลายเออร์หรือบริษัทที่จัดหาด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ชานมไข่มุกที่มีความเป็นมืออาชีพ น่าเชื่อถือ และรับประกันบริการหลังขายให้คุณ

ข้อแนะนำ: คุณควรใช้เคาน์เตอร์แสตนเลส  ในปัจจุบันนี้ร้านค้าหลายแห่งยังคงใช้ไม้เพราะมีต้นทุนต่ำกว่า แต่ว่าไม้จะอยู่ได้ไม่นานนัก เพียง 5 ปี ไม้ก็เสื่อมโทรมแล้ว ทำให้ร้านดูไม่เป็นมืออาชีพ นอกจากว่าคุณจะทำธุรกิจนี้ไม่นาน 

5. การเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม  

     โดยทั่วไปแล้ววัตถุดิบ ได้แก่ ผงชา ผงผลไม้ นม กาแฟ แบรนด์ต่างๆ และยังรวมถึงมิกซ์เซอร์และท้อปปิ้งต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้ชานมไข่มุกของคุณมีคุณภาพแบบไหน ซึ่งจะต้องมีความเหมาะสมตามเมนูที่คุณกำหนดเอง อันที่จริงแล้ว คุณภาพของวัตถุดิบนั้นแหล่ะ ที่จะเป็นตัวกำหนดแบรนด์ของคุณเอง เพราะมันคือตัวควบคุมรสชาติของชานมไข่มุก และการเลือกใช้วัตถุดิบนั้นยังต้องคำนึงงบประมาณของคุณด้วย คุณต้องคอยระวังด้านความสด ใหม่ ของวัตถุดิบที่นำมาใช้อยู่เสมอ หรือคุณอาจเลือกซัพพลายเออร์ที่เสนอบริการตรวจเช็ควัตถุดิบอย่างสม่ำเสมอ หรือรับเปลี่ยนวัตถุดิบให้คุณได้ 

ข้อแนะนำ : หลังจากที่คุณเลือกใช้วัตถุดิบตามเมนูได้แล้ว คุณต้องเรียนรู้วิธีที่จะชงชานมไข่มุกให้เสร็จสรรพได้อย่างรวดเร็ว เพราะคุณต้องสร้างการเตรียมพร้อมเพื่อที่จะเสิร์ฟชานมไข่มุกแก่ลูกค้าให้ได้อย่างรวดเร็วและน่าประทับใจ

สุดท้ายนี้เราสามารถวางแผนการใช้เงิน และเลือกการใช้งบลงทุนตามที่ท่านวางไว้ได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือความตั้งใจในการทำและใส่ใจในทุกๆขั้นตอนนั่นเอง

Package by Chakaimuk.com สนใจรายละเอียด คลิ๊กที่รูปได้เลย >>>